หน้าเว็บ

4.26.2555

ความคิดของบัณฑิต

ฉันได้ยินบทสนทนาของแม่ลูกคู่หนึ่ง
ฉันไม่ได้ตั้งใจฟังในตอนแรก
แต่ฉันต้องมา ตั้งใจฟัง เมื่อ..
ลูกพูดว่า ถ้าแม่ใส่ชุดผ้าไหมไปงานรับปริญญา ลูกจะไม่เข้ารับ
ฉันหันไปมองดูหน้าแม่ แม่ทำหน้าเศร้าอย่างบอกไม่ถูก
เหมือนแม่จะพยายามพูดอะไร แต่สุดท้ายก็ถอนใจ
ฉันนั่งฟัง ลูกยังบ่นพึมพำอยู่คนเดียว
ฉันจับใจความได้ว่า ทำไมต้องชุดผ้าไหม มันไม่เว่อร์ไปเหรอไง
ชุดเสื้อยืดธรรมดาก็พอ อายคนอื่นเขา.. 

ฉันรู้สึกเหมือนมีรูโหว่ในใจ
ฉันเก็บเอามาคิดเป็นวัน ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของฉัน
ในความคิดของฉัน วันที่ลูกรับปริญญาคือวันที่แม่ภูมิใจที่สุดรองจากวันที่ได้ให้กำเนิดลูก

แม่ต้องการที่จะใส่ชุดผ้าไหม เพราะ เป็นชุดพิเศษที่ไม่สามารถนำมาใส่ได้ทุกวันเหมือนกับเสื้อยืดธรรมดา แต่ ลูกกลับรู้สึกอายคนอื่นเขา

คนอื่นเขา คือ ใครก็ไม่รู้ ที่ไม่ได้ส่งเสียให้ลูกเรียนจบ แต่ลูกกลับแคร์ความรู้สึกของคนอื่นเขามากกว่า แม่ ที่ทำให้ลูกมีทุกวันนี้ได้

ฉันสงสัย ว่าตอนที่ลูกยังเป็นเด็ก เป็นวัยรุ่น แต่งตัวประหลาดตามสมัยนิยม แม่เคยอายคนอื่นเขาบ้างมั้ย ที่เดินกับลูกที่แต่งตัวประหลาด ทำผมตั้ง ใส่กางเกงขาด เสื้อรัดติ้ว..

แม่ไม่เคยอายคนอื่นเขา ถึงแม้ว่าลูกจะแต่งตัวยังไง แต่ลูกกลับอายคนอื่นเขาที่แม่ใส่ชุดผ้าไหม ไปงานรับปริญญา...นี้หรือความคิดบัณฑิตที่เรียนจบแล้ว  




4.07.2555

สายฝน..

วันนี้ ฉันเดินทางไปสอบเป็นวันสุดท้าย 


หน้าเมืองเอก เกิดฝนตกระดับรุนแรง


ฉันลงรถพร้อมกับ ผู้หญิงคนหนึ่ง 


เธอไม่มีร่ม แต่ฉันมีร่ม ฉันเลยชวนเธอเดินไปด้วยกัน


ไม่มีบทสนทนาใดๆทั้งสิ้น ในระหว่างเดินไป 


เมื่อสิ้นสุดทางเดิน เธอเดินจากไป 


ฉันคิดในใจ ขอบคุณซักคำก็ไม่มี... 


ฉันขึ้นรถสองแถวตามปกติ แต่วันนี้ไม่ปกติ


ฉันนั่งอยู่ริมสุดของรถ ฝนตกลงมาโดนตัวฉัน


ผู้ชายข้างๆ ลุกขึ้นมา บอกฉันว่า


เข้ามานั่งที่ผมดีกว่า ผมเปียกแล้ว 


ฉันขอบคุณ พร้อมคิดในใจว่า


ผู้ชายดีดียังมีบนโลก  พร้อมกับเงยหน้าไปสบสายตา


เมื่อลงรถแล้ว ฉันได้พบกับผู้หญิงคนแรก


เธอกล่าวขอบคุณ และ บอกว่าไปซื้อร่มมา


เธอยิ้มกว้างปากฉีก มาที่ฉัน ไม่ต่ำกว่า 3 รอบ


ส่วนฉัน หันไปยิ้ม ให้ผู้ชายคนนั้น แล้ว กล่าว ขอบคุณ อีกรอบ..


ถึงแม้นว่า ฉันจะไม่ได้ถามชื่อกัน หรือ คุยกันซักคำ ฉันก็รู้สึกเป็นสุข


ถึงแม้นว่า ฝนจะตก ฉันจะเปียก แต่ฉันก็มีรอยยิ้ม